กรมอุตุนิยมวิทยาจัดงานวันสถาปนาครบรอบ 81 ปี (23 มิถุนายน 2566)

23 มิ.ย. 2566 กรมอุตุนิยมวิทยาจัดงานวันสถาปนา ครบรอบ 81 ปี พร้อมเสวนาวิชาการ “การส่งผ่านสภาพอากาศ ภูมิอากาศ และน้ำ จากรุ่นสู่รุ่น และระบบเตือนภัยล่วงหน้าสำหรับทุกคน” เชิญ 2 ตัวแทนเยาวชนไทยที่ได้รับคัดเลือกให้ร่วมเสนอแนวคิดในการประชุม Youth4Climate : Driving Ambition ซึ่งจัดโดยองค์การสหประชาชาติ ณ เมืองมิลาน ประเทศอิตาลี เมื่อปี 2564 มาบอกเล่าประสบการณ์ สร้างการรับรู้แก่คนรุ่นใหม่ให้เข้าใจและตระหนักถึงความสำคัญของการแก้ไขปัญหาสภาพอากาศอย่างยั่งยืน

วันที่ 23 มิถุนายน 2566 กรมอุตุนิยมวิทยาจัดงานวันสถาปนา ครบรอบ 81 ปี โดยมี พันตำรวจโท อนุรักษ์ จิรจิตร ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เป็นประธาน ศาสตราจารย์พิเศษ วิศิษฏ์ วิศิษฏ์สรอรรถ ปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) ร่วมเป็นเกียรติในงาน     ในการนี้ ดร. ชมภารี  ชมภูรัตน์ อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา พร้อมด้วย ว่าที่ร้อยตรี ธนะสิทธิ์  เอี่ยมอนันชัย รองอธิบดีฝ่ายวิชาการ นางสาวพะเยาว์  เมืองงาม รองอธิบดีฝ่ายปฏิบัติการ นาวาตรี สมนึก  สุขวณิช รองอธิบดี  ฝ่ายปฏิบัติการ ผู้บริหาร และเจ้าหน้าที่กรมอุตุนิยมวิทยา ร่วมต้อนรับแขกผู้มีเกียรติที่มาร่วมแสดงความยินดี ณ หอประชุมกรมอุตุนิยมวิทยา ถนนสุขุมวิท เขตบางนา กรุงเทพฯ

งานวันสถาปนา ครบรอบ 81 ปี 23 มิถุนายน 2566 กำหนดจัดพิธีสักการะสิ่งศักดิ์สิทธ์ประจำกรมฯ    พิธีสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์ และพิธีบำเพ็ญทักษิณานุประทาน พิธีเชิญธงประจำกรมอุตุนิยมวิทยาขึ้นสู่ยอดเสา พิธีวางพานพุ่มถวายสักการะพระอนุสาวรีย์พลเรือเอกพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ผู้วางรากฐานและให้กำเนิดกิจการอุตุนิยมวิทยาในประเทศไทยในช่วงเช้า จากนั้นช่วงบ่าย กำหนดจัดงานเสวนาวิชาการ “การส่งผ่านสภาพอากาศ ภูมิอากาศ และน้ำ จากรุ่นสู่รุ่น และระบบเตือนภัยล่วงหน้าสำหรับทุกคน” โดยมี นางสาวพัทธ์ธีญา  ยงค์สงวนชัย และนางสาวอมินตา  เพิ่มพูนวิวัฒน์ สองผู้แทนเยาวชนไทยที่ได้รับคัดเลือกให้ร่วมเสนอแนวคิดในการประชุม Youth4Climate : Driving Ambition ซึ่งเป็นกิจกรรมที่จัดควบคู่กับการประชุมรัฐภาคีกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศสมัยที่ 26 (Conference of the Parties : COP26) ระหว่างวันที่ 28-30 กันยายน 2564 ณ เมืองมิลาน ประเทศอิตาลี ซึ่งจัดโดยองค์การสหประชาชาติ  มาร่วมบอกเล่าประสบการณ์ สร้างการรับรู้แก่คนรุ่นใหม่ให้เข้าใจและตระหนักถึงความสำคัญของการแก้ไขปัญหาสภาพอากาศอย่างยั่งยืน ปิดท้ายด้วยกิจกรรมถามตอบประเด็นร้อนเกี่ยวกับอุตุนิยมวิทยาที่กำลังอยู่ในความสนใจ โดยมี ว่าที่ร้อยตรี ธนะสิทธิ์  เอี่ยมอนันชัย รองอธิบดีฝ่ายวิชาการ ดร. วัฒนา  กันบัว ผู้อำนวยการกองพัฒนาอุตุนิยมวิทยา และ ดร. สุกฤษฎิ์  เกิดแสง ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านวิจัยและพัฒนาอุตุนิยมวิทยา เป็นผู้ตอบคำถาม ไขข้อข้องใจเรื่องเด่นประเด็นร้อนเกี่ยวกับอุตุนิยมวิทยาที่สังคมให้ความสนใจในขณะนี้ ดำเนินรายการโดย นายสุรพงษ์  สารปะ ผู้อำนวยการศูนย์ภูมิอากาศ ถ่ายทอดสดผ่านทางเฟซบุ๊ก “กรมอุตุนิยมวิทยา”

ดร. ชมภารี เปิดเผยว่า ปีนี้กรมอุตุนิยมวิทยาเดินทางมาครบรอบปีที่ 81 ของการก่อตั้งแล้ว เป็นเวลากว่า 8 ทศวรรษที่กรมฯ มุ่งมั่นพัฒนางานด้านพยากรณ์อากาศและการให้ข้อมูลแจ้งเตือนภัยสภาพอากาศและแผ่นดินไหวแก่ประชาชนอย่างต่อเนื่อง ทั้งการปรับปรุงเครื่องมือให้ทันสมัย จัดหาเครื่องมือตรวจอากาศอัตโนมัติเพื่อเพิ่มจุดตรวจวัดให้ครอบคลุมพื้นที่ยิ่งขึ้น นำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI : Artificial Intelligence) เข้ามาช่วยปรับปรุงระบบการพยากรณ์อากาศให้มีความแม่นยำมากขึ้น ให้บริการข้อมูลอุตุนิยมวิทยาในรูปแบบของ Open Data เพื่อแลกเปลี่ยนเชื่อมโยงข้อมูล ตลอดจนผนึกกำลังกับหน่วยงานพันธมิตรมากมายทั้งภาครัฐและเอกชนทั้งในและต่างประเทศในฐานะหน่วยงานสารตั้งต้นข้อมูล เพื่อให้บริการข้อมูลอุตุนิยมวิทยาซึ่งเป็นบิ๊กดาต้าที่สามารถประยุกต์ใช้การวางแผน บริหารจัดการ สร้างนวัตกรรม และพัฒนาการให้บริการที่ตรงกับความต้องการของประชาชนอย่างแท้จริง

โดยก้าวต่อไปนับจากนี้ กรมอุตุนิยมวิทยาในฐานะสมาชิกขององค์การอุตุนิยมวิทยาโลก (WMO : World Meteorological Organization) จะร่วมขับเคลื่อนการดำเนินการด้านระบบการเตือนภัยในโครงการที่เรียกว่า Early Warning for All ภายใต้กรอบการทำงานของ WMO ให้ก้าวไปข้างหน้าและประสบความสำเร็จภายใน 5 ปี โดยร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของประเทศไทย พัฒนาความร่วมมือกับประเทศสมาชิกในภูมิภาค    ทั้งระบบการตรวจอากาศ การสื่อสารข้อมูลอุตุนิยมวิทยา การพยากรณ์อากาศ การพยากรณ์และเตือนภัยน้ำท่วมฉับพลัน การคาดหมายสภาพภูมิอากาศที่มีประสิทธิภาพ และการวิจัยในสาขาต่าง ๆ ตลอดจนความร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชนที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้การปฏิบัติงานด้านระบบเตือนภัยล่วงหน้าในประเทศไทยมีความที่ชัดเจนเป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้น อันจะส่งผลให้เกิดการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การบรรเทาความเสียหายและการลดผลกระทบที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ซึ่งสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปีของประเทศไทย และร่างแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 13 อีกด้วย    อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยากล่าว

กรมอุตุนิยมวิทยา

กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม

23 มิถุนายน 2566