สายด่วน อต. 1182
สายด่วน อต. 1182

กรมอุตุนิยมวิทยาร่วมแถลงสถานการณ์แผ่นดินไหวขนาด 6.0 บริเวณตอนเหนือของทะเลอันดามัน สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา

กรมอุตุนิยมวิทยาร่วมแถลงสถานการณ์แผ่นดินไหวขนาด 6.0 บริเวณตอนเหนือของทะเลอันดามัน สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา
วันที่ข้อมูล 20 มิถุนายน 2566

เมื่อวันที่ 20 มิถุนายน 2566 เวลา 10.00 น. ดร.ชมภารี ชมภูรัตน์ อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา  ร่วมกับ ดร.อรนุช หล่อเพ็ญศรี อธิบดีกรมทรัพยากรธรณี นายธนิต ใจสะอาด หัวหน้าศูนย์วิจัยและพัฒนาอาคาร กรมโยธาธิการและผังเมือง และนายสุวิทย์ โคสุวรรณ ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านที่ปรึกษาทางการบริหารจัดการทรัพยากรธรณี ร่วมแถลงสถานการณ์แผ่นดินไหวขนาด 6.0 บริเวณตอนเหนือของทะเลอันดามัน สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา ณ ห้องประชุมชั้น 1 อาคารเพชร กรมทรัพยากรธรณี

ดร.ชมภารี เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่าเหตุการณ์แผ่นดินไหวเมื่อวานนี้ (19 มิ.ย. 2566) เวลา 08.40 น. เกิดจากการเลื่อนตัวตามแนวระนาบของรอยเลื่อนสะกาย (Sagiang Fault) ซึ่งเป็นหนึ่งในรอยเลื่อนมีพลังที่พาดผ่านตอนกลางของประเทศและต่อยาวลงมาถึงทะเลอันดามัน วัดได้ขนาด 6.0 ความลึก 10 กิโลเมตร ห่างจากกรุงเทพมหานครประมาณ 500 กิโลเมตร หลังจากนั้น ได้เกิดอาฟเตอร์ช็อกตามมา 8 ครั้ง (เมื่อเวลา 23.00 น. ของวันที่ 19 มิถุนายน 2566) โดยมี ขนาดตั้งแต่ 3.0-3.9 จำนวน 3 ครั้ง และขนาด 4.0- 4.9 จำนวน 5 ครั้ง แม้เหตุการณ์นี้จะไม่ส่งผลกระทบและสร้างความเสียหายแก่ประเทศไทย แต่ประชาชนที่พักอาศัยอยู่ในบริเวณอาคารสูง (โดยเฉลี่ยสูงกว่าชั้น 10 ขึ้นไป) ในพื้นที่จังหวัดนนทบุรี ปทุมธานี และกรุงเทพมหานคร จะรับรู้ถึงการสั่นไหว เนื่องจากบริเวณดังกล่าวตั้งอยู่บนพื้นที่ที่มีลักษณะของดินอ่อน ส่งผลให้มีการขยายสัญญาณคลื่นแผ่นดินไหว ยืนยันว่าเป็นแผ่นดินไหวขนาดเล็กไม่ส่งผลกระทบกับประเทศไทย และในกรณีนี้เกิดจากรอยเลื่อนตามแนวระดับ (strike-slip fault) ซึ่งไม่ก่อให้เกิดสึนามิจากแผ่นดินไหว ทั้งนี้ การเกิดอาฟเตอร์ช็อกก็จะมีขนาดลดลงเรื่อย ๆ ตามลำดับ

 

กรมอุตุนิยมวิทยาในฐานะหน่วยงานที่มีบทบาทและภารกิจที่เกี่ยวข้องกับการเฝ้าระวังแผ่นดินไหว คือการตรวจ เฝ้าระวัง ติดตามและรายงานการเกิดแผ่นดินไหวและสึนามิ เรามีเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานตลอด 24 ชั่วโมงเพื่อทำการวิเคราะห์จำแนกคลื่นแผ่นดินไหว คำนวณหาตำแหน่งการเกิดรายงานศูนย์กลาง ขนาด ความลึก วันเวลา สถานที่เกิดแผ่นดินไหว จากนั้นจะออกประกาศแจ้งเตือนประชาชนพร้อมกับประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยอย่างรวดเร็วและทันท่วงที ปัจจุบัน กรมอุตุนิยมวิทยามีสถานีตรวจวัดแผ่นดินไหวชนิดอัตราเร็ว 75 สถานี สถานีตรวจวัดอัตราเร่ง 55 สถานี และสถานี GPS 13 สถานี ตลอดจนมีความร่วมมือในการใช้ข้อมูลเครือข่ายแผ่นดินไหวร่วมกันกับทั้งภายในประเทศ เช่น กรมทรัพยากรธรณี การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย กรมชลประทาน และหน่วยงานระหว่างประเทศ ได้แก่ IRIS, GFZ และ CTBTO รวมทั้งสิ้น 486 สถานี

 

กรมอุตุนิยมวิทยาจะติดตามและรายงานสถานการณ์ต่อไป ขอให้ประชาชนมั่นใจในการทำงานของกรมฯ ตลอดจนการร่วมกันแจ้งเตือนสาธารณภัยของหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนที่ล่าสุดกรมอุตุนิยมวิทยา จับมือกับกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และ LINE ประเทศไทย เปิดตัว LINE ALERT บัญชีแจ้งเตือนภัยพิบัติร้ายแรง ประชาชนสามารถเพิ่มเพื่อนที่บัญชี @linealert เพื่อติดตามการแจ้งเตือนภัยล่วงหน้าให้แก่ประชาชนผ่านการบูรณาการข้อมูลที่สำคัญและจำเป็น นอกจากนี้ ยังสามารถติดตามข้อมูลเกี่ยวกับแผ่นดินไหวได้ที่เว็บไซต์กองเฝ้าระวังแผ่นดินไหว กรมอุตุนิยมวิทยา earthquake.tmd.go.th เฟซบุ๊กและทวิตเตอร์ EarthquakeTMD โทรศัพท์หมายเลข 0 2366 9410, 0 2399 0969, 0 2399 4547 และสายด่วน 1182 ตลอด 24 ชั่วโมง อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยากล่าวในตอนท้าย

 

ภาพ : อดิศักดิ์ พิมพ์พงษ์

ข่าว : ปุญชรัสมิ์ ราศรี

Chatbot logo