













นายนัฐวุฒิ แดนดี รองอธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยาฝ่ายวิชาการ ในฐานะหัวหน้าผู้แทนไทย พร้อมด้วย นายวัฒนา กันบัว ผู้อำนวยการกองพัฒนาอุตุนิยมวิทยา ในฐานะผู้ประสานงานคณะทำงาน ด้านอุตุนิยมวิทยาภายไต้กรอบคณะกรรมการไต้ฝุ่น รวมถึงผู้แทนจากกรมอุตุนิยมวิทยา กรมชลประทาน กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ เดินทางเข้าร่วมการประชุมคณะกรรมการไต้ฝุ่น สมัยที่ 57 (The 57th Session of ESCAP/WMO Typhoon Committee: TC57) ณ กรุงมะนิลา สาธารณรัฐฟิลิปปินส์ ระหว่างวันที่ 17 – 20 กุมภาพันธ์ 2568 โดยกรมอุตุนิยมวิทยาฟิลิปปินส์เป็นเจ้าภาพจัดการประชุม และสาธารณรัฐฟิลิปปินส์ทำหน้าที่ประธานคณะกรรมการไต้ฝุ่น และสาธารณรัฐเกาหลีทำหน้าที่รองประธานคณะกรรมการไต้ฝุ่น สมัยที่ 57 – ไปจนถึงก่อนการประชุม สมัยหน้า
การประชุมคณะกรรมการไต้ฝุ่นจัดขึ้นเป็นประจำทุกปี เพื่อนำเสนอผลงานความก้าวหน้าทางวิชาการที่เกี่ยวข้องกับการเตือนภัยพิบัติล่วงหน้า รายงานกิจกรรมของคณะกรรมการไต้ฝุ่น ทบทวนความก้าวหน้าในการดำเนินงานตามแผนการทำงานของคณะทำงานฯ ในปีที่ผ่านมา วางแผนกิจกรรม ที่จะดำเนินการในรอบปีถัดไป นำเสนอรายงานการประชุมของคณะทำงานต่าง ๆ พิจารณาแผนยุทธศาสตร์คณะกรรมการไต้ฝุ่นปี ค.ศ. 2022 – 2026 นำเสนอสรุปข้อมูลพายุที่เกิดขึ้นในปี 2567 และอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง พร้อมกันนี้ ที่ประชุมได้พิจารณาทดแทนและถอดถอนชื่อพายุที่สร้างความเสียหายให้แก่ประเทศสมาชิก ซึ่งกรมอุตุนิยมวิทยาจะได้เผยแพร่ในเว็บไซต์กรมต่อไป
คณะกรรมการไต้ฝุ่น (ESCAP/WMO Typhoon Committee: TC) เป็นองค์กรระหว่างรัฐบาล ที่จัดตั้งขึ้นภายใต้การอุปถัมภ์ร่วมกันของคณะกรรมาธิการเศรษฐกิจและสังคมสำหรับเอเชียและแปซิฟิก (ESCAP) และองค์การอุตุนิยมวิทยาโลก (WMO) เมื่อปี ค.ศ. 1968 (พ.ศ. 2511) เพื่อส่งเสริมและประสานงานการวางแผนและการดำเนินการตามมาตรการที่จำเป็นในการลดการสูญเสียชีวิตและความเสียหายต่อทรัพย์สินที่เกิดจากพายุไต้ฝุ่นในเอเชียและแปซิฟิก ประเทศไทยเข้าร่วมเป็นสมาชิกตั้งแต่ ปี 2511 ปัจจุบันมีสมาชิกทั้งหมด 14 ประเทศ
“กลไกความร่วมมือระดับภูมิภาคและสถาบันต่าง ๆ เช่น คณะกรรมการไต้ฝุ่นถือเป็นตัวอย่างของแพลตฟอร์มความร่วมมือที่ประสบความสำเร็จในการส่งเสริมแนวปฏิบัติที่ดีตอบสนองข้อริเริ่มโครงการ Early Warnings for All ของสหประชาชาติ โดยเฉพาะเสาหลักที่ 1 (The 1st Pillar: Disaster risk knowledge and management) ซึ่งมุ่งเน้นไปที่การสร้างองค์ความรู้เกี่ยวกับความเสี่ยงจากภัยพิบัติ และเสาหลักที่ 2 (The 2nd Pillar: Detection, observation, monitoring, analysis, and forecasting) การเสริมสร้างการพยากรณ์และการติดตามภัยพิบัติ และเอสแคป (ESCAP) มีแผนที่จะเสริมสร้างความร่วมมือกับคณะกรรมการไต้ฝุ่น ประเทศสมาชิก และ WMO เพื่อขับเคลื่อนแนวทางการแก้ปัญหาสำหรับภัยพิบัติข้ามพรมแดนผ่านการสร้างความสามารถในการรับมืออย่างเป็นระบบ” นายไดสุเกะ มารุอิจิ ผู้แทนคณะกรรมาธิการเศรษฐกิจและสังคมแห่งสหประชาชาติสำหรับเอเชียและแปซิฟิก (เอสแคป) กล่าวเน้นย้ำความสำคัญของความร่วมมือกันเพื่อตอบสนองต่อภัยพิบัติ ในระหว่างพิธีเปิดการประชุม TC57