ภาคเหนือ

อากาศเย็นถึงหนาวกับมีหมอกในตอนเช้า และอุณหภูมิจะสูงขึ้น 1-2 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิต่ำสุด 15-21 องศาเซลเซียส 
อุณหภูมิสูงสุด 31-35 องศาเซลเซียส   
บริเวณยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 5-15 องศาเซลเซียส 
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 5-15 กม./ชม. 

ในช่วงวันที่ 6 - 8 ก.พ. อากาศเย็นถึงหนาว กับมีหมอกในตอนเช้า และมีหมอกหนาบางพื้นที่ โดยอุณหภูมิจะสูงขึ้น 1 – 2 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิต่ำสุด 15 – 23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30 – 37 องศาเซลเซียส 
บริเวณยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 5 - 13 องศาเซลเซียส 
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 5 - 15 กม./ชม.
ส่วนในช่วงวันที่ 9 - 11 ก.พ. อากาศเย็นถึงหนาว กับมีหมอกในตอนเช้า และอุณหภูมิจะลดลง 2 – 4 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิต่ำสุด 11 – 19 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28 – 34 องศาเซลเซียส 
บริเวณยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 3 - 11 องศาเซลเซียส 
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10 - 20 กม./ชม.

ออกประกาศ 05 กุมภาพันธ์ 2568

ตอนบนของภาคมีอากาศหนาวเกือบทั่วไป ส่วนทางตอนล่างมีอากาศเย็นทั่วไปกับมีอากาศหนาวหลายพื้นที่ สำหรับบริเวณเทือกเขาและยอดดอยมีอากาศหนาวถึงหนาวจัด โดยมีฝนเล็กน้อยบางพื้นที่ในวันที่ 27 ม.ค.

ออกประกาศ 03 กุมภาพันธ์ 2568

พยากรณ์อากาศราย 4 สัปดาห์​

บริเวณความกดอากาศสูงจากประเทศจีนยังคงแผ่เสริมลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนเป็นระยะๆ ซึ่งจะทำให้บริเวณภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือยังคงมีอากาศหนาวเย็นทั่วไป และอาจมีอากาศหนาวจัดได้ในบางพื้นที่ในบางวัน กับมีหมอกหนาในหลายพื้นที่ ส่วนภาคกลางและภาคตะวันออกจะมีอากาศเย็นเกือบทั่วไปและมีหมอกในบางพื้นที่ สำหรับบริเวณยอดดอย ยอดภู รวมทั้งบริเวณเทือกเขายังคงมีอากาศหนาวถึงหนาวจัดกับจะมีน้ำค้างแข็งเกิดขึ้นได้ในบางพื้นที่ในบางวัน สำหรับภาคใต้จะมีฝนน้อย แต่บริเวณทางตอนล่างของภาคใต้ฝั่งตะวันออกยังคงมีฝนในหลายพื่นที่ คลื่นลมในอ่าวไทยและทะเลอันดามันจะมีคลื่นสูง 1 - 2 เมตร ทั้งนี้เนื่องจาก บริเวณความกดอากาศสูงจากประเทศจีนที่แผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนเป็นระยะๆ นั้น จะมีกำลังอ่อนลง ประกอบกับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมประเทศไทยในช่วงแรกนั้น จะเริ่มเปลี่ยนเป็นลมตะวันออกเฉียงใต้หรือลมใต้พัดปกคลุมแทน ข้อควรระวัง ในช่วงนี้ มักจะมีคลื่นกระแสลมตะวันตกเคลื่อนจากประเทศพม่า ผ่านประเทศไทยตอนบน ทำให้บริเวณดังกล่าวมี ฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรงและอาจมีลูกเห็บตกบางแห่ง ประชาชนจึงควรติดตามข่าวพยากรณ์อากาศของกรมอุตุนิยมวิทยา อย่างใกล้ชิด

27 ม.ค. 68 - 02 ก.พ. 68

30-32°

16-18°

03 ก.พ. 68 - 09 ก.พ. 68

30-32°

16-18°

10 ก.พ. 68 - 16 ก.พ. 68

31-33°

17-19°

17 ก.พ. 68 - 23 ก.พ. 68

32-34°

18-20°

ในช่วงต้นเดือน จะมีอากาศร้อนเป็นระยะๆ กับมีหมอกหนาหลายพื้นที่ แต่ยังคงมีอากาศเย็นในตอนเช้า จากนั้น จะมีอากาศร้อนอบอ้าวโดยทั่วไป และมีอากาศร้อนจัดในหลายพื้นที่ แต่จะมีฝนฟ้าคะนองในบางช่วงซึ่งจะช่วยคลายความร้อนลงได้

อุณหภูมิสูงสุด 35-37 °C

อุณหภูมิต่ำสุด 21-23 °C

ลม SE ความเร็ว 8-15 กม./ชม.

ความชื้นสัมพัทธ์ 60-65 %

ปริมาณฝน 20-40 มม.

จำนวนวันฝนตก 3-5 วัน

ออกประกาศ 01 มีนาคม 2568