ภาคใต้ฝั่งตะวันตก

มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง 
บริเวณจังหวัดระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล
อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-32 องศาเซลเซียส
ตั้งแต่จังหวัดกระบี่ขึ้นมา ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-40 กม./ชม. 
ทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร
ตั้งแต่จังหวัดตรังลงไป ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. 
ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60 - 80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ตลอดช่วง โดยมีฝนตกหนักมากในช่วงวันที่ 12 – 15 ก.ค.
ในช่วงวันที่ 12 – 15 ก.ค. ตั้งแต่จังหวัดกระบี่ ขึ้นมา: ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20 - 40 กม./ชม. 
ทะเลมีคลื่นสูง 2 - 3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร
ตั้งแต่จังหวัดตรัง ลงไป: ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20 - 35 กม./ชม. 
ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
ส่วนในช่วงวันที่ 16 – 17 ก.ค. ตั้งแต่จังหวัดพังงา ขึ้นมา: ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20 - 35 กม./ชม. 
ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
ตั้งแต่จังหวัดภูเก็ต ลงไป: ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15 - 35 กม./ชม. 
ทะเลมีคลื่นสูง 1 - 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
อุณหภูมิต่ำสุด 23 – 28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28 – 34 องศาเซลเซียส

ออกประกาศ 11 กรกฎาคม 2568

มีฝนมากกว่าร้อยละ 75 ของพื้นที่เกือบตลอดช่วง กับมีฝนหนักบางพื้นที่ โดยมีรายงานน้ำท่วมบริเวณจังหวัดภูเก็ต ในวันที่ 8 ก.ค.

ออกประกาศ 11 กรกฎาคม 2568

พยากรณ์อากาศราย 4 สัปดาห์​

ในช่วงสัปดาห์แรกบริเวณประเทศไทยจะมีฝนเพิ่มขึ้นเกือบทั่วทุกภาค โดยจะมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60-80 ของพื้นที่เป็นส่วนใหญ่ กับจะมีฝนตกหนักในบางแห่ง เว้นแต่ภาคใต้ฝั่งตะวันออกจะมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและบริเวณชายฝั่งตะวันออกยังคงมีกำลังค่อนข้างแรง บางช่วงจะมีคลื่นสูง 2 – 3 เมตร ส่วนคลื่นลมบริเวณทะเลอ่าวไทยตอนล่างจะมีคลื่นสูงประมาณ 1-2 เมตร จากนั้น ปริมาณและการกระจายของฝนจะลดลง รวมทั้งคลื่นลมในทะเลจะมีกำลังอ่อนลง ก่อนจะกลับมามีปริมาณฝนเพิ่มมากขึ้นอีกในช่วงปลายเดือนกรกฎาคม ทั้งนี้เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ยังคงพัดปกคลุมบริเวณทะเลอันดามันและประเทศไทย โดยจะจะมีกำลังค่อนข้างแรงเป็นระยะๆ จากนั้นจะมีกำลังอ่อนลง ประกอบกับ ในบางช่วงมีร่องมรสุมกำลังปานกลางถึงค่อนข้างแรงพาดผ่านบริเวณภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ในช่วงนี้ มักจะมีพายุหมุนเขตร้อนก่อตัวในมหาสมุทรแปซิฟิกเหนือด้านตะวันตก และอาจเคลื่อนตัวผ่านประเทศฟิลิปปินส์ลงสู่ทะเลจีนใต้ ซึ่งส่งผลให้มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน และประเทศไทยมีกำลังแรงขึ้น ทำให้ประเทศไทยมีฝนตกเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะบริเวณชายฝั่งภาคตะวันออกและภาคใต้ฝั่งตะวันตก ขอให้ติดตามข่าวพยากรณ์อากาศจากกรมอุตุนิยมวิทยาไว้ด้วย

07 ก.ค. 68 - 13 ก.ค. 68

ฝน 60-80% ของพื้นที่

คลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

31-33°

24-26°

14 ก.ค. 68 - 20 ก.ค. 68

ฝน 40-60% ของพื้นที่

คลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

32-34°

24-26°

21 ก.ค. 68 - 27 ก.ค. 68

ฝน 60-80% ของพื้นที่

คลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

32-34°

24-26°

28 ก.ค. 68 - 03 ส.ค. 68

ฝน 60-80% ของพื้นที่

คลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

31-33°

24-26°

ประมาณครึ่งแรกของเดือนยังคงมีฝนน้อย ทะเลมีคลื่นสูง   1-2 เมตร จากนั้นจะมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60 - 80 ของพื้นที่ กับมีฝนหนักถึงหนักมากบางแห่งในบางวัน ทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร

อุณหภูมิสูงสุด 31-33 °C

อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 °C

ลม SW ความเร็ว 15-35 กม./ชม.

ความชื้นสัมพัทธ์ 80-85 %

ปริมาณฝน 310-370 มม.

จำนวนวันฝนตก 16-20 วัน

ออกประกาศ 01 กรกฎาคม 2568